Nadia Zhuk - พลังของการยืนหยัดเพื่อตนเองและการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทาง

Nadia Zhuk เป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ฟูลสแต็กที่เรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเธอมีภารกิจในการช่วยให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเทคนิคสามารถเรียนรู้การเขียนโค้ดและสร้างอาชีพที่ประสบความสำเร็จในด้านเทคโนโลยีได้ สมัยที่เธอยังเด็ก เธอรู้สึกกลัวเทคโนโลยี แต่พอเธอมีอายุได้ยี่สิบกลางๆ การเปลี่ยนอาชีพทำให้เธอหันมาสู่เส้นทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ในซีรีส์ #WomenWhoMaster ล่าสุด Nadia จะแบ่งปันวิธีที่เธอเรียนรู้ที่จะเชื่อในตัวเอง ความสำคัญของการมีผู้คนสนับสนุน และสิ่งที่เธอคาดหวังสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

คำถาม: คุณช่วยบอกเราเกี่ยวกับงานของคุณและการทำงานในแต่ละวันของคุณได้ไหม?

ฉันเป็นวิศวกรฟูลสแต็กที่ Intercom ฉันมุ่งเน้นที่การสร้างและปรับปรุงแชทบอทและระบบอัตโนมัติประเภทอื่นๆ ฉันใช้เวลาทั้งวันไปกับการสร้างคุณสมบัติใหม่ๆ รีแฟคเตอร์โค้ดที่มีอยู่ หรือทำงานเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์

คำถาม: ช่วยเล่าเกี่ยวกับวัยเด็กของคุณให้ฟังหน่อยได้ไหม และคุณเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้อย่างไร?

เรื่องราวของฉันค่อนข้างแตกต่างจากหลายๆ คนที่ทำงานในสาขา STEM ฉันโตขึ้นมาในเบลารุสยุคหลังโซเวียตในช่วงทศวรรษ 1990 มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับประเทศของฉันและครอบครัวของฉันด้วย เราสามารถซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องแรกได้ก็ตอนฉันอายุ 15 ปี นั่นคือปี 2006 เมื่อตอนที่ฉันโตขึ้น ฉันไม่มีความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีเลย และไม่ได้สนใจมันเลยจริงๆ ฉันมักจะสนใจมนุษยศาสตร์มากกว่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การเขียน และภาษาต่างประเทศ ความสนใจเหล่านั้นทำให้ฉันเป็นบรรณาธิการและนักข่าวในนิตยสารข่าวอิสระ 

เมื่อฉันอายุ 25 ปี นิตยสารฉบับนี้ก็ปิดตัวลง และฉันต้องหาหนทางว่าจะทำอย่างไรต่อไป ฉันรู้ว่าฉันต้องการย้ายจากเบลารุสไปยังโปแลนด์ และฉันก็รู้ด้วยว่าฉันขาดทักษะที่จำเป็นในการทำให้การย้ายนี้สำเร็จ หลังจากการค้นคว้า ฉันก็เห็นชัดเจนว่าฉันต้องการทักษะทางเทคนิคที่ฉันจะทำให้ฉันได้รับการจ้างเข้าทำงานในประเทศใหม่ อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงกลัวเทคโนโลยี ฉันรู้สึกว่ามีคนพวกหนึ่งที่เขียนโค้ดได้ และก็มีคนอีกพวกหนึ่งที่ถนัดด้านมนุษยศาสตร์มากกว่า ฉันรู้สึกว่าฉันอยู่ในคนพวกที่สอง

คำถาม: นั่นคือตอนที่คุณเริ่มฝึกทักษะทางเทคนิคให้ตัวเองใช่ไหม?

ได้สิ ฉันเริ่มเรียนรู้ไปทีละส่วน ทีละส่วน อันดับแรกฉันเริ่มเรียน Excel, Photoshop แล้วก็โปรแกรมทางเทคนิคอื่นๆ จากนั้นฉันจึงก้าวไปสู่การเขียนโค้ด ฉันไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยหรือการอบรมใดๆ เลย ฉันมีแค่ตัวฉันกับคอมพิวเตอร์ของฉันเท่านั้นเอง

มันค่อนข้างท้าทายทีเดียว ฉันต้องหาหนังสือและแหล่งข้อมูลทางออนไลน์ แล้วดูว่าสิ่งใดใช้ได้ผล และสิ่งใดที่ไม่ได้ผล

คำถาม: คุณมีคำแนะนำอะไรบ้างที่อยากบอกผู้หญิงที่ทำงานสาย STEM คนอื่นๆ

คำแนะนำด้านอาชีพที่ฉันชอบบางส่วนมาจากหนังสือ “Nice Girls Don't Get The Corner Office” มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับความผิดพลาดที่ที่ผู้หญิงมักทำโดยไม่รู้ตัว และทำให้อาชีพการงานของพวกเธอพังพินาศ ข้อผิดพลาดประการหนึ่งในนี้ก็คือการไม่ยืนหยัดเพื่อตนเองในการเจรจาเรื่องเงินเดือนหรือในการขอเลื่อนตำแหน่ง นี่อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้หญิงที่ต้องเข้าสังคมเพื่อจะเอาใจทุกคนที่อยู่รอบข้าง และกลัวที่จะถูกมองว่าเป็น “ปัญหายุ่งยาก” แต่การเรียนรู้วิธียืนหยัดเพื่อตัวเองและต่อสู้เพื่อสิ่งที่เป็นของคุณ นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก!

คำถาม: คุณมีโค้ชคนที่คุณได้พบในระหว่างการเปลี่ยนอาชีพ ซึ่งช่วยและแนะนำคุณได้จริงๆ ใช่ไหม?

เมื่อฉันเริ่มงานด้านเทคโนโลยี ฉันไม่มีโค้ชคอยฝึกสอนในอุตสาหกรรม และนี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่ฉันเสียใจ โชคดีที่ฉันได้รับการแนะนำให้รู้จักกับโค้ชในช่วงกลางของอาชีพของฉัน แม้ว่าฉันจะได้รับการพูดคุยเพื่อปรึกษากับเธอเพียงครั้งเดียว เธอก็ได้ให้คำแนะนำแก่ฉันมากมาย และช่วยให้ฉันค้นพบทางสู่โลกแห่งเทคโนโลยี การให้คำปรึกษาอาจทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ และบางครั้งการให้คำปรึกษาเพียงครั้งเดียวก็อาจช่วยให้สามารถหาคำตอบสำหรับคำถามของคุณได้

ทุกวันนี้ ฉันให้คำปรึกษาคนอื่น ๆ ที่กำลังเรียนรู้การเขียนโค้ด และฉันไม่อาจเห็นว่าการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนจากภายนอกมีความสำคัญน้อยไปกว่านี้ได้เลย สิ่งแรกที่ฉันจะแนะนำสำหรับมือใหม่คือการสร้างวงของการสนับสนุน ทั้งในชีวิตจริง เช่น ระหว่างกลุ่มการเรียนรู้ หรือทางออนไลน์ เช่น #100DaysofCode การมีกลุ่มผู้สนับสนุนจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจอยู่เสมอเมื่อการเรียนรู้กลายเป็นเรื่องยาก และจะช่วยคุณในสถานการณ์การทำงานที่ซับซ้อนในเวลาต่อมา เช่น การออกจากที่ทำงานที่เป็นมลภาวะ หรือการขอเลื่อนตำแหน่ง

คำถาม: วิธีหนึ่งที่คุณจะช่วยเหลือผู้ที่กำลังเรียนรู้การเขียนโค้ด ทำได้โดยการแบ่งปันประสบการณ์ของคุณ เช่น ในหนังสือ Crossing the Rubycon ของคุณ ผู้หญิงสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้างจากหนังสือเล่มนี้?

หนังสือเล่มนี้เป็นทั้งเรื่องราวส่วนตัวของฉัน และเป็นคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการเรียนรู้การเขียนโค้ด ถ้าคุณไม่มีทักษะด้านเทคนิค ฉันคิดว่าจะเขียนหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรก ก็ตอนที่ฉันกำลังมองหาแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ สำหรับผู้ที่กำลังเรียนเขียนโปรแกรม ฉันพบว่ามีเนื้อหาไม่มากนักที่เขียนขึ้นโดยผู้ที่ไม่ใช่คนสายเทคนิค ดูเหมือนว่าผู้สร้างเนื้อหาส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานทางเทคนิคก่อนที่จะมาเป็นโปรแกรมเมอร์ และฉันไม่เคยเห็นคนแบบฉันอยู่ในเรื่องราวเหล่านั้นเลย 

หนังสือเล่มนี้มีไว้เพื่อคนอย่างฉันเอง คนที่ไม่มีพื้นฐานทางเทคนิค แต่ต้องการเรียนรู้การเขียนโค้ดและสร้างอาชีพในสายเทคโนโลยี มันมีไว้เพื่อเป็นโค้ชส่วนตัวด้านอาชีพของพวกเขา แหล่งข้อมูลเพื่อจะใช้อ้างอิง เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาสูญเสียความมั่นใจในตนเองหรือรู้สึกว่าไม่สามารถไปต่อได้ หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยคำแนะนำทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการเพิ่มพูนทักษะทางเทคนิค วิธีการที่จะได้งานเขียนโค้ดครั้งแรก และวิธีการที่จะสร้างเส้นทางอาชีพที่ประสบความสำเร็จในฐานะโปรแกรมเมอร์

คำถาม: ลองนึกภาพตอนที่หลานสาวของคุณเลือกอาชีพเดียวกับคุณ เธอจบการศึกษาระดับวิทยาลัยในปี 2100 คุณต้องการให้อนาคตของเธอเป็นอย่างไร?

ฉันอยากให้เธอรู้สึกเหมือนกับคนอื่นๆ ที่รู้สึกได้รับพลัง และจำไว้ว่าเธอสามารถทำทุกอย่างได้อย่างที่เธอต้องการ ฉันหวังว่าจะมีข้อจำกัดน้อยลงและประตูขวางกั้นน้อยลงทั้งภายในและภายนอก ที่สำคัญที่สุดคือ ในช่วงเวลานั้น ฉันหวังว่าเราจะไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงในสายเทคโนโลยี หรือผู้ชายสายเทคโนโลยีอีก เพราะปัญหาที่เรากำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้จะไม่มีอีกต่อไป